Be Traveler :ความทรงจำ … สังขละบุรี

สวัสดีนักเดินทาง

มาถึงคิวสังขละบุรี ส่วนหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ที่ติดต่อกับชายแดนพม่า ห่างจากตัวเมืองประมาณ 215 กิโลเมตร การเดินทางจากกรุงเทพมหานครก็ใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมงหากเดินทางด้วยรถยนต์ โดยสังขละบุรีมีแม่น้ำซองกาเลียที่ต้นกำเนิดจากในประเทศพม่าไหลผ่านหล่อเลี้ยงผู้คนสองฟากฝั่งแม่น้ำ แม่น้ำซองกาเลียจึงเป็นชื่อเรียก จากภาษามอญแปลเป็น ไทยว่า”ฝั่งโน้น”

DSC_0202.jpg

การแบ่ง 2 ฟากฝั่งด้วยแม่น้ำซองกาเลีย คือ ฝั่งหนึ่งคือตัวอำเภอ คนส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่พูดภาษาไทย ส่วนฝั่งโน้นเป็นหมู่บ้านของชาวมอญทั้งที่ตั้งรกรากมานานนับร้อยปี จึงถือว่าป็นเมืองที่มีความงามหลากหลาย ทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมของพี่น้องต่างเผ่าพันธุ์ ทั้งมอญ กระเหรี่ยง ไทย ลาว พม่า โดย ตัวอำเภอตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า”สามประสบ” คือบริเวณ ที่ลำน้ำสามสาย อันได้แก่ ห้วยซองกะเลีย ห้วยบิคลี่ และห้วยรันตี ไหลมาบรรจบกันเป็นของแม่น้ำแคว

DSC_0073.jpg

มาที่นี้อย่างแรกที่นึกถึงคือ สะพานมอญ หรือที่ เรียกกันว่า”สะพานไม้อุตตมานุสรณ์” เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศ  ยาวประมาณ ๑ กม.  หลวงพ่ออุตตมะผู้ริเริมก่อสร้างเพื่อให้คนไทย กะเหรี่ยงและมอญได้สัญจรไปมาหาสู่กัน เป็นการสร้าง ความสัมพันธ์ของคนทั้งสามกลุ่ม ใครมาที่นี้ก็ต้องเดินชมสะพาน ชมแสงของพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ชมวิถีชีวิตของชาวไทยและมอญที่เดินข้ามไปมาหากัน

DSC_0221.jpg

DSC_4531.jpg

DSC_0063.jpg

 

DSC_0327.jpg

DSC_0329.jpg

ในช่วงเช้าสิ่งแรกที่มามาที่นี้คือการได้แแต่งชุดมอญเดินไปตักบาตรพระฝั่งหมู่บ้านมอญ เวลาประมาณ 6.30น. ซึ่งพวกเราก็ไม่พลาดกิจกรรมนี้

 

DSC_4626.jpg

DSC_4628.JPG

 

 

 

DSC_4631.jpg

DSC_4647.jpg

บนสะพานมอญแห่งนี้ยังถ่ายทอดวิธีชีวิตของคนมอญให้เราได้สัมผัสตลอดริม 2 ฝั่งของแม่น้ำ ไม่ว่าจะกิจกรรมชีวิตประจำวัน การทำมาหากิน รวมทั้งกิจกรรมของการท่องเที่ยวเอง ก็ไม่หยุดนิ่ง

DSC_0060.jpg

DSC_0207.jpg

DSC_0209.jpg

DSC_0241.jpg

DSC_0271.jpg

DSC_0296.jpg

DSC_4574.jpg

DSC_0310.jpg

DSC_4643.jpg

DSC_4555.jpg

ส่วนสีสันบนสะพานก็คึกคักไม่แพ้กัน ประทับใจที่สุดก็คงไม่พ้นบรรดาเด็กๆผู้บริการสร้างสีสันบนใบหน้าด้วยทานาคา ที่แสนจะสดใสและน่ารัก และที่สำคัญเป็นมิตรกับกล้องถ่ายรูปสุดๆ โดยเฉพาะ เด็กหญิงพิมใจ

DSC_4589.jpg

DSC_0289.jpg

DSC_0287.jpg

DSC_0290.jpg

DSC_0264.jpg

DSC_4578.jpg

DSC_4659.jpg

DSC_0308.jpg

DSC_0312.jpg

DSC_4668

เดินผ่านไปบนสะพานหากไม่ช่วงเวลาเย็นๆ แดดร่มลมตกก็จะมีกิจกรรมของเด็กตัวเล็ก โดดน้ำโชว์กันอยู่หลายรอบ สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใดมีน้ำใจก็แบ่งสตางค์ให้ค่าขนมน้องๆแลกกับการกระโดดนน้ำโชว์ให้ดู

DSC_4562.jpg

DSC_4567.jpg

มาสังขละแล้ว การได้ล่องเรือไป วัดจมน้ำ เมืองบาดาล ก็เป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้ การหาเรือก็มีตั้งแต่เป็นรายคน หรือเหมาทั้งลำเฉพาะกลุ่มเพื่อนก็มีบริการ ก็สามารถติดต่อที่สะพานมอญได้เลย .. หรืออย่างพวกเรานอนพักที่ พนธ์นที รีสอร์ท มีบริการเรือมารับที่ท่าเรือของโรงแรมเลย สะดวกมาก…

DSC_0336

DSC02416.jpg

DSC_0075.jpg

DSC_0073

DSC_0076

ระหว่างทาง มองเห็นจากแม่น้ำซองกาเลีย พระเจดีย์พุทธคยา เป็นปูชนียสถานที่สำคัญคู่กับวัดวังก์วิเวการาม เป็นเจดีย์องค์ใหญ่นี้ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ มีสีเหลืองทอง

DSC_0079

วัดใต้น้ำ หรือ วัดจมน้ำ คือวัดวังก์วิเวการามเดิมที่มีซากโบราณสถานจมอยู่ใต้น้ำ เป็นสถานที่เล่าขานถึงตำนานความเป็นมาของวัดหลวงพ่ออุตตมะ จนหลายคนเรียกกันว่าเมืองบาดาล นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในช่วงฤดูร้อนถึงต้นฤดูฝน ตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคม – มิถุนายน เป็นช่วงหน้าแล้ง น้ำจะลดลงมาก จะสามารถเดินเข้าไปเยี่ยมชมโบสถ์เก่าได้ แต่เรามาช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่ประมาณกันยายน – มกราคม ก็ได้เห็นแค่บางส่วนของตัวโบสถ์ที่โผล่พ้นน้ำ

DSC_0082

DSC_0085DSC_0087

DSC_0092DSC_0110DSC_0093DSC_0095DSC_0096DSC_0109

วัดสมเด็จ(เก่า)
ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเมืองบาดาลเป็นอุโบสถของวัดสมเด็จเก่า ที่ถูกทิ้งร้าง เมื่อคราวย้ายเมืองสังขละบุรี ตอนที่เริ่มมีการสร้างเขื่อนเขาแหลม (เขื่อนวชิราลงกรณ ในปัจจุบัน) วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาไม่ได้จมอยู่ใต้น้ำ ภายในอุโบสถมีพระประธานสภาพยังค่อนข้างสมบูรณ์ ต้องลงเรือที่ท่าแล้วเดินขึ้นบันไดไปสักพัก

DSC_0114.jpg

DSC_0137.jpg

DSC_0115.jpg

DSC_0116.jpg

DSC_0120.jpg

DSC_0122.jpg

DSC_0123.jpg

DSC_0125.jpg

DSC_0141.jpg

สถานที่ต่อมา ขึ้นจากเรือเพื่อขึ้นรถเดินทางไป วัดวังก์วิเวการาม (วัดหลวงพ่ออุตตะมะ) ประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนอันงดงามและเป็นที่จำพรรษาของ หลวงพ่ออุตตมะ ซึ่งประชาชนชาวไทย ชาวมอญ เคารพนับถือ ตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ เพราะมีแม่น้ำ 3สายไหลมาบรรจบกัน คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี

DSC_0368.jpg

DSC_4691.jpg

DSC_0371DSC_0384

DSC_0378.jpg

DSC_0387.jpg

DSC_0392DSC_0397

เจดีย์พุทธคยา เป็นเจดีย์องค์ใหญ่ บนยอดเจดีย์ประดับด้วยฉัตรทองคำหนัก 400 บาท เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุที่หลวงพ่ออุตตมะอัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา ที่หลวงพ่ออุตตามะให้้สร้างจำลองขึ้น เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาติ กระดูกนิ้วหัวแม่มือขวาของพระพุทธเจ้าที่ขนาด เท่าเมล็ดข้าวสาร ไว้เป็นที่ สักการะของพุทธศาสนิกชน เจดีย์แบบพุทธคยา มีลักษณะฐาน เป็น รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส

DSC_0407.jpg

DSC_4701.jpg

DSC_4704.jpg

DSC_4705.jpg

ถนนคนเดินสังขละบุรี จัดขึ้นในทุกเย็นวันเสาร์ และวันหยุดช่วงเทศกาล ณ บริเวณถนนด้านข้างโรงแรมศรีแดง ใกล้ตลาดสดเทศบาลสังขละบุรี ตั้งแต่ 17.00 – 22.00 น. มีทั้งของกิน ของพื้นเมือง โดยเฉพาะมีการแสดงของน้องๆนักเรียน ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นสังขละบุรี แต่งกายพื้นเมือง สร้างสีสันในถนนคนเดินคึกคักเลยทีเดียว

DSC02465

DSC02539.jpg

DSC02540.jpg

DSC02536.jpg

DSC02468.jpg

DSC02467.jpg

DSC02478.jpg

DSC02482.jpg

DSC02472.jpg

DSC02485.jpg

DSC02491.jpg

DSC02488.jpg

DSC02493.jpg

DSC02496.jpg

DSC02500.jpg

และทีเด็ดที่นี้ หมูจุ่มพม่า….

DSC02556.jpg

DSC02557.jpg

DSC02561.jpg

ของที่ระลึกก็หลากหลาย….

DSC02495.jpg

DSC02494.jpg

DSC02522.jpg

DSC02507.jpg

DSC02514.jpg

DSC02516.jpg

DSC02524.jpg

และนี่แหละ เสน่ห์…สังขละบุรี

ขอบคุณสำหรับการติดตาม

Be Traveler