สวัสดีนักเดินทาง
สำหรับคราวนี้พวกเราอยากแบ่งปันความสุขในแบบสายหวานชมพูๆที่ ภูลมโล ดินแดนสีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่เรียกได้ว่าเป็นทุ่งกว้างกว่า 1200 ไร่ ซึ่ง ภูลมโล ถือได้ว่าเป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยเลย ตั้งอยู่จังหวัดเลย เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงมกราคมจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาชมความสวยงามของดอกพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทยกันเยอะมาก และพวกเราก็ เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
การวางแผนเที่ยวของพวกเราคือการเลือกนอนพักในหมู่บ้านร่องกล้า เป็นทางผ่านไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ารวมถึงเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวและจุดขึ้นรถไปยัง ภูลมโล โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาที
เราเลือกที่ บ้านไร่ลมหนาว วิวดีมาก เพราะตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือหมู่บ้านร่องกล้า รวมทั้งมีบริการท่องเที่ยวเขาไปยังภูลมโล โดยไม่ต้องไปเข้าคิวที่จุดขึ้นรถด้วย (เป็นบริการแบบเหมาทั้งคัน)
บ้านที่เราพัก คือบ้านหลังริมสุด เรื่องราคาที่พัก ติดต่อ https://www.facebook.com/Lumnow12345/ ได้เลย
ห้องพัก ห้องน้ำสะอาด น้ำอุ่นพร้อม มีทีวีบริการด้วย นอกจากนี้ภายในที่พักยังมีสวนดอกกระดาษที่เจ้าของปลูกไว้เพื่อขายสร้างรายได้ และก็ยังสวยงามอีกด้วย จากภาพ สวนดอกกระดาษเชิงเขากับวิวหมู่บ้านร่องกล้าเบื้องล่าง ที่พญาเสือโคร่งก็สอดแทรกอยู่แถบทุกมุม
ไร่สตอเบอรี่ เล็กๆ ครอบครัวไร่ลมหนาวเขาก็แบ่งพื้นที่ปลูกให้พวกเรานักท่องเที่ยวได้มีกิจกรรมทำกันนะ ปลอดสารนะจ๊ะ
เตรียมตัวขึ้นภูลมโล พี่เชษฐเจ้าของไร่ลมหนาวพาเราออกเดินทางด้วยรถคู่ใจ ทั้งคันมีกันอยู่ 3 คนรวมคนขับ เลยไม่ต้องนั่งข้างหลังให้ปะทะฝุ่น แต่สำหรับใครที่ต้องนั่งข้างหลัง เสื้อกันหนาวและผ้าปิดกันฝุ่น สำคัญสุด
สถานที่แรก ไร่กะหล่ำบนเขา วิวดีมาก เป็นของญาติพี่เชษฐ ปลูกขายแต่ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย พิเศษสำหรับคนที่มาพัก ไร่ลมหนาวเท่านั้นเนอะ..
ไม่ได้มีแต่กะหล่ำ มีไร่ฟักแม้วที่เขาเก็บยอดและผลมาขาย พี่เชษฐใจดีเก็บเป็นกำไปผัดให้กินอีก
จากนั้นเดินทางต่อ ภูลมโล จ้า พี่มาแล้ว เราออกเดินทางมาช่วงบ่ายแก่ แดดร่มลมตก แสงก็จะอ่อนๆ ให้มันหวานๆสมกับสีชมพูของพญาเสือโคร่ง
นักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นไปชื่นชมความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง ทางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าได้ออกประกาศเรื่องห้ามนำรถส่วนตัวที่อุทยานแห่งชาติมิได้อนุญาตเข้าไปในเขตภูลมโล เพื่อเป็นการดูแลรักษาไม่ให้เกิดความเสียหายของระบบนิเวศในอุทยาน ลดปัญหาการจราจรติดขัด ลดอุบัติเหตุ … ทุกคนก็ต้องไปรถกระบะแบบนี้นะจ๊ะ
จุดแรกคือ บนเนินเขาที่จะสามารถมองเห็นทุ่งของทุ่งพญาเสือโคร่งในมุมสูงได้
มันดีย์… จากนั้นนั่งรถต่อไปอีก โอ้โห้ ไม่พูดเยอะดูเอาเองเนอะ สวยมาก
เขาบอกว่า ภูลมโล เดิมเป็นพื้นที่ปลูกกะหล่ำปลี ทำไร่เลื่อนลอยของชาวเขาเผ่าม้ง ต่อมาทางอุทยานได้ทำข้อตกลงกับชาวม้งให้อาศัยอยู่และทำเกษตรกรรมในพื้นที่อุทยานได้ แต่ต้องปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งไปด้วย มันเลยเยอะแบบนี้นี่เอง
ใครที่ชอบถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็นคนชอบถ่าย หรือชอบเป็นนางแบบบอกเลย ที่นี้ เหมาะที่สุด
ช่วงเวลาของการชมความสวยงาม ก็เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม เป็นต้นไป จนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ โดยจะค่อยๆ ทยอยเบ่งบานไปที่ละแปลง ใครที่จะมาก็ต้องรีบมา อย่ารอช้า
โดยหลักๆ จะมีให้ชม 3 แปลง ได้แก่ แปลงภูลมโล แปลงก้อนหินใหญ่ และ แปลงภูขี้เถ้า
และแปลงสุดท้ายที่เรามาคือ แปลงก้อนหินใหญ่
แสงเริ่มจะหมด แต่วิวทุ่งพญาเสือโคร่งก็ยังชมพูตัดกับความอ่อนของแสงอาทิตย์จริงๆ
มาเหอะ สวยไม่แพ้ซากุระที่ญี่ปุ่นเด้อ!!! ที่เลยนี่เอง
กลับไร่ลมหนาว พักผ่อน การนั่งกินหมูกระทะบนยอดดอยเนี้ย.. ได้บรรยากาศสุดๆล่ะ ซึ่งที่ ไร่ลมหนาวแหน่งนี้ก็มีบริการ ก็เลยจัดมาสัดชุด!!!
หรือจะวิวพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า .. หน้าบ้านเราเลยวิวตรงหน้าก็คือ หมู่บ้านร่องกล้า
ตื่นเช้ามาไร่ลมหนาว มีข้าวต้ม กาแฟ บริการ เมื่อเรียบร้อยก็มีโอกาสเข้าไปในหมู่บ้านร่องกล้าก่อนเดินทางกลับ
ยามเช้าที่หมู่บ้านตรงทางขึ้นภูลมโลก็คึกคักด้วยบรรดานักท่องเที่ยว ที่กำลังจะขึ่นไปชมความงามของภูลมโล แต่ บริเวณหมู่บ้านเองก็มีพญาเสือโคร่งเบ่งบานให้ชมปะปนกับวิถีชีวิตชาวบ้าน
รถกระบะโรแมนติกไปเลยป่ะล่ะ 555+
กาแฟยามเช้ากับความชมพูอ่อนๆ ….
ป่ะกลับกรุงเทพ
ขอบคุณสำหรับการติดตาม
Be Traveler
ข้อมูลติดต่อ
ไร่ลมหนาว https://www.facebook.com/Lumnow12345/