สวัสดีนักเดินทาง
กลับมาครั้งนี้ พวกเราพึ่งกลับจากจังหวัดเลย ไปนอนชิลล์ที่เชียงคาน เมืองเล็กๆริมน้ำโขง สุดชายแดนไทย ที่บอกเลยว่าที่นี้สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดูจริงๆ
มาเชียงคานก็จะได้สัมผัสกับ เมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบบ้านเก่าๆที่เรียงรายติดกันอยู่ริมถนนชายโขง โดยจะแบ่งออกเป็นซอย เล็กๆ เรียกว่า ถนนศรีเชียงคาน ขนานคู่กันไปไปกับถนนใหญ่ ซึ่งเป็นถนนสายหลัก เริ่มตั้งแต่ถนนศรีเชียงคาน ซอยที่ 1- 24 และแบ่งเป็น ศรีเชียงคานฝั่งบน กับ ศรีเชียงคานฝั่งล่าง
ศรีเชียงคานฝั่งล่าง หรือ ถนนชายโขง คือ แหล่งรวมบ้านพัก ร้านอาหารและเป็นบริเวณที่ตั้งของถนนคนเดินเชียงคาน ที่ใครมาที่นี้ต้องมาเดิน
เรามาถึงที่นี้ พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว น่าเสียดายเพราะกิจกรรมที่ทุกคนอยากมาทำที่เชียงคานคือ การนั่งชิลล์ชมพระอาทิตย์ตก นั่นแหละ อ่ะ!! ได้แต่แสงสวยๆ ก็ ปลื้มล่ะ
สำหรับ 1 คืนที่เชียงคาน เราเลือกพักที่นี้ ภู่เชียงคาน ที่พักริมชายโขง กับห้อง A1 ที่เปิดระเบียงห้องมาก็สัมผัสบรรยากาศชิลล์ได้เลย
ห้องพักรวมอาหารเช้า โดยมีคูปองไปกินที่ร้าน ลุกโภชนา ร้านเก่าแก่ของเชียงคาน
ภู่เชียงคาน ตั้งอยู่ใจกลางถนนคนเดิน ติดริมโขง บรรยากาศอบอุ่นเหมือนเรามาพักบ้านเราเอง การออกแบบตกแต่งก็สวยงามเข้ากับความเป็นเชียงคานสุดๆ อยากพักผ่อนอย่างเรียบง่าย ใช้ชีวิตให้ช้าลง ต้องที่นี้จริงๆ
ห้อง A1 ดียังไง เป็นห้องนอนชั้น 1 มีระเบียง ติดริมฝั่งโขง บรรยากาศดี
การจองที่พัก จะจองกับที่พักโดยตรง ที่เบอร์ 089 981 3759 หรือ ทาง Facebook – Phuchiangkhan
หรือ จะผ่าน Agoda ก็สะดวกดีนะ
ฝั่งตรงข้ามของ ภู่เชียงคาน ก็มีเหมือนพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับภาพยนต์ (เจ้าของเดียวกับที่พัก) ที่รวบรวมตำนานของโรงหนังแห่งแรกของเชียงคานในสมัยอดีต ที่เจ้าของได้รวบรวมไว้เพื่อเป็นความรู้แก่คนที่สนใจ
บรรยากาศด้านนั้นก็มีการจำลองเก้าอี้โรงหนังสมัยก่อนได้ให้เราได้ลองนั่งดู รวมทั้งมีการจัดแสดงเครื่องฉายหนังในสมัยก่อน ที่เจ้าของยังเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีให้ได้ชมกันด้วย มีแผ่นหนังรวมทั้งแผ่นโฆษณาเกี่ยวกับหนังที่เข้าฉายจำนวนมาก เข้ากับบรรยากาศของเชียงคานจริงๆ
บรรยากาศด้านหลังของภู่เชียงคาน ก็โรแมนติกสุดๆ จะชิลล์ริมน้ำโขง หรือจะปั่นจักรยานก็ฟินทุกแบบ
มาเชียงคานเมื่อฟ้าเริ่มมืดลง แสงไฟของถนนคนเดินก็เปิดกันคึกคัก ของกินและของที่ระลึกมีให้เลือกเยอะมาก
ผัดไทย โบราณกลิ่นหอมมากจนต้องแวะ
มาเชียงคาน แล้วต้องมากินกุ้งจิ๋วย่าง ปูจิ๋วย่าง เดินเพลินก็เคี้ยวมันดี
เดินชิลล์อากาศเย็นสบาย อยากช็อปของอาร์ทๆ เก๋ ๆ ก็มีให้เลือกมากมาย
แต่เราฝากท้องมื้อเย็นที่ ร้านเฮือนหลวงพระบาง ปล. ข้าวจี่ทอด อร่อยๆ สุด
นอนหลับฝันดี แฮ๊ปปี้ มาเชียงคานอย่านอนดึกนะ เพราะเราต้องตื่นมาใส่บาตรและไปชมหมอกยามเช้า เด๋วจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง ว่ามาเชียงคาน 55+
สวัสดียามเช้า ตื่นแต่เช้าออกมาเตรียมตัวใส่บาตร ทาง ภู่เชียงคาน ปูเสื่อน่าที่พัก เตรียมของใส่บาตรให้เราพร้อมเลย เพียงแค่เรานั่งสวยๆ รอนิมนต์พระเท่านั้น
จากนั้นเตรียมตัวไปชมหมอกยามเช้าที่ ภูทอก โดยเราต้องขับรถไปที่ตีนภู เพื่อขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ขึ้นไป ขับรถออกจากกลางเมืองเชียงคานไปไม่นานประมาณ 15 นาที ค่ารถเจ้าหน้าที่คนละ 25 บาท ไปกลับ
กลับมาจากชมหมอก ประทับใจมาก ถึงแม้ว่าจะไม่ไดไปทันเห็นพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า เพราะอยากใส่บาตรยามเช้าที่เชียงคานสักครั้ง ก็ไม่ผิดหวังเลย เพราะหมอกแน่นมาก แสงดี ขนาดไปเกือบ 8 โมงเช้า ก็จะสวยงามตามรูปเลยจ้า
ยามเช้าที่เชียงคาน …..
กลับมาถึงที่พัก เพื่อกินอาหารเช้า โดยทางภู่เชียงคาน จะให้คูปองเราไปกินมื้อเช้าที่ ลุกโภชนา ร้านดังในตำนานของเชียงคาน ต้มเลือดหมู โจ๊กหมู อร่อยมาก
กินอิ่ม ก็เดินไปเที่ยววัดกลางเมือง วัดศรีคุนเมือง แหล่งรวมศิลปของทางล้านช้างและล้านนาเข้าด้วยกันอย่างสวยงาม ระหว่างทางก็สัมผัสบรรยากาศยามเช้าของเชียงคานไปด้วย
พวกเราไม่เคยมาเที่ยว เชียงคานเลย มาที่นี้ครั้งแรก ประทับใจบรรยากาศมาก และถ้าใครยังไม่เคยมา ต้องบอกเลยว่า ต้องมาเที่ยวสักครั้ง เอาจริงๆ ความคิดส่วนตัว ที่นี้มาเที่ยวได้ทุกฤดู จะหน้าหนาว หน้าฝน หรือว่าหน้าร้อน ได้มาพักผ่อน ชมวิถีชัวิต นั่งชิลล์ชิมวิวโขง แค่นี้ก็สุดๆแล้ว
การเดินทางมาที่นี้ ใครใคร่ขับรถมาก็รวมระยะทางประมาณ 597 ก.ม. จากกรุงเทพมหานคร หรือใครอยากนั่งรถสาธารณะก็มีรถทัวร์ถึงเชียงคานเลย ของบริษัทขนส่ง หรือ เอาสะดวกรวดเร็วก็ นั่งเครื่องบินมาลงจังหวัดเลย แล้วใช้บริการรถเช่าขับเองก็สะดวกนะ
แนะนำเพิ่มเติม!!
สำหรับคนที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว แล้วพักที่ภู่เชียงคาน เมื่อจอดเก็บกระเป๋าหน้าที่พักแล้ว ต้องนำรถไปจอดที่จุดจอดรถของที่พัก ที่ซอยถนนศรีเชียงคาน ซอย 9 จะมีป้ายเขียนติดที่ประตูว่า จุดจอดรถของภู่เชียงคาน
มาเถอะ …สักคืนที่เชียงคาน
ขอบคุณสำหรับการติดตาม
