เตรียมตัวขับรถเที่ยว UK

สวัสดีนักเดินทาง

หลังจากห่างหายการออกทริปใหญ่ของพวกเรา Be Traveler มานานเนื่องจากการเก็บเงินนั้นก็ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร จนกระทั่งทริปใหญ่ล่าสุดของเราก็คลอดโดยต้องออกตัวก่อนเลยว่า ทริปนี้เป็นทริปที่มีครบทุกรสชาติจริงๆ กลับมาแล้วก็ไม่ลืมที่จะเอามารีวิวให้เพื่อนๆได้ชมกัน มาเริ่มกันที่ฉบับเตรียมตัวกันก่อนเลย

England – Scotland / 8 Days – 10 April – 17 April 2018

ก่อนอื่น – เราเริ่มดูตารางบอลของแมท Liverpool ที่จะมีขึ้นในบ้านของพวกเขาที่สนาม Anfield ก่อนเลยว่าจะมีวันไหนในช่วงที่เราจะไปก่อนเลย …..เพราะจุดประสงค์หลักของการไปครั้งนี้ คือการพาสามีผู้เป็นแฟนหงษ์แดงไปดูบอลสักแมทตามความฝันที่มีแต่เด็ก (ให้นึกถึงภรรยาที่ไม่ความรู้เรื่องบอล ไม่มีความอิน 55+)

และวันที่ได้ก็คือ 14 เมษายน 2561 ทริปน้อยๆก็เกิดขึ้น

ตั๋วบอล Liverpool นี่หาก่อนสิ่งอื่นใด อยากได้ที่นั่งแบบไหน แมทไหน เมื่อไหร่ เดินทางยังไง ติดต่อน้องปาล์ม แห่ง Ballboypage  น้องดูแลดีตอบคำถามทุกอย่าง ช่วยทุกปัญหา ใช้บริการมาแล้วไม่ผิดหวัง

แผนการท่องเที่ยวของเราจึงเกิดขึ้น ……

Tuesday 10 April 2018 วันเดินทาง	Leave Bangkok, Thailand. Fly by KLM Bangkok – Amsterdam – Edinburgh KL0876 BKK – Amsterdam  12.05 – 18.45 (Transfer) 2.25 Arrive Edinburgh 21.35 –          Get the Rent car / Sixt 22.00 at the Edinburgh –          Check in Innkeeper’s Lodge – Edinburgh
Wednesday 11April 2018 1	Visit Isle of Skye Stay at The Portree Hotel/ Scotland
Thursday 12 April 2018 2	Visit Isle of Skye Stay at The Portree Hotel/ Scotland
Friday 13 April 2018 3	– Visit Edinburgh – Visit Dales Countryside + Haworth – Go Liverpool Stay at The Cabbage Hall Bar & Grill – Liverpool
Saturday 14 April 2018 4	– Liverpool City – Liverpool Match @ Anfield Stay at The Cabbage Hall Bar & Grill – Liverpool
Sunday 15 April 2018 5	– Visit Broadway – Visit Stanton – Visit Bibury / Castle Combe – Return the car At Sixt Car Hire St Pancras London 19.00 Stay at Studios2Let
Monday 16 April 2018 6	– London Stay at Studios2Let
Tuesday 17 April 2018 7	– London Stay at Studios2Let
Wednesday 18 April 2018 วันเดินทาง 9	– London Back to Bangkok, Thailand. Fly by Air France London AF1581 – Paris (Transfer) 1.55 –  BKK 11.50 – 14.10 / 16.50 – 08.20 +1 (Thursday)

ที่พัก – เราเริ่มทำจองเป็นสิ่งถัดมาเมื่อเราเลือกวัน กำหนดแผนได้แล้ว ในทันทีผ่านเจ้าเดิมที่เราสบายใจอย่าง www.booking.com  โดยไม่ต้องจ่ายล่วงหน้า และสามารถยกเลิกได้

Innkeeper’s Lodge – Edinburgh – 1 คืน 62 ปอนด์ ห้องสามารถนอนได้ 3 คนนะ

The Portree Hotel Skye/ Scotland – 2 คืน 310 ปอนด์

The Cabbage Hall Bar & Grill – Liverpool – 2 คืน 480 ปอนด์

Studios2Let/ London – 3 คืน 260 ปอนด์

วีซ่า  ขอวีซ่า UK ภายใน 90 วัน ก่อนเดินทาง
เรื่องเอกสาร ขอวีซ่า

• จดหมายแนะนำตัวเอง ทำงานอะไร + ใบรับรองจากบริษัท ยิ่งเป็นข้าราชการ ของ่ายเลยคะ  / หากไม่ได้ทำงานบริษัท ก็ต้องมีจดหมายชี้แจงรายได้ มีรูปถ่ายยืนยัน เป็นภาษาอังกฤษ
• เรื่องเงิน มีเอกสารรับรองจาก Bank รับรองเงินในบัญชี เป็นภาษาอังกฤษ ขอได้คะ ที่แบงค์ + ปรับสมุด ย้อนหลัง 6 เดือน หรืออย่างสามีแม่บ้านนั้น ไม่มีเรื่องเอกสารการเงิน ก็ต้องทำจดหมาย Sponsor ให้  + เอกสารว่าบัญชีของเรารับรองสามีด้วย (เป็นภาษาอังกฤษ) โดยระบุเงินเป็น GBP
• แม่บ้านและพ่อบ้านเพจแต่งงานไม่ได้จดทะเบียน เขียนจดหมายคะ (เป็นภาษาอังกฤษ)+ รูปถ่ายวันแต่งงาน
• ตารางการเที่ยว วันนี้เที่ยวไหน นอนไหน แนบทุกคนในกรุ๊ป (เป็นภาษาอังกฤษ)
• เอกสารการจองที่พัก จองของ Booking.com ไม่เสียเงิน ปริ้นได้เลย เอาที่เป็นเวอร์ชั้น Eng เอาทุกที่ที่เราจอง เรียงตามวัน ซึ่งใบจองที่พัก ต้องมีชื่อคนนอนด้วยนะคะ ใส่เฉพาะคนจองไม่ได้ Booking.com สามารถเพิ่มเติมได้นะ
• วีซ่า UK ไม่ต้องซื้อประกันการเดินทางแนบนะค่ะ
• แบบฟอร์มขอวีซ่า โดยกรอกออนไลน์ และชำระเงินออนไลน์ก่อนไปยื่นเลย
• สำเนาทะเบียนบ้าน Copy เลยคะ เรา ไม่ได้ แปล
• สำเนา Passport
• สำเนาใบขับขี่สากล
• ตั๋วเครื่องบิน – เราขอจาก Agent แบบไม่เสียเงินจริง
• แม่บ้านเพจกลัวไม่ได้วีซ่า เลยแนบสำเนาฉโนดที่ดินไปด้วย แถมแม่บ้านออมเงินด้วยการซื้อทอง ก็สำเนาตั๋วทองคำที่มีทั้งหมดไปด้วย 55+
  รายละเอียดการยื่นตามลิงค์เลยคะ
  https://www.visa4uk.fco.gov.uk/account/register

Note – ตอนแม่บ้านขอวีซ่า แม่บ้านได้ข้อมูลดีดีจากลิงค์นี้เลย https://pantip.com/topic/36525271

ประกันการเดินทาง เนื่องจากการขอวีซ่าไม่จำเป็นต้องใช้ แต่เราอ่ะ มองว่ามีไว้สบายใจ เผื่อเกิดอะไรขึ้นที่ไม่คาดฝัน จะได้มีตัวช่วยไว้ก็ยังดี เลยเลือกใช้ ของ AXA Insurance Thailand เหมือนเดิมซื้อในเว็ป ตัดบัตรเครดิต ส่งกรมธรรม์ ทางเมล สะดวกดี https://www.axa.co.th/

เครื่องบิน เราเลือกที่จะบินไปลงที่ Edinburgh ของ Scotland จากกรุงเทพเลยเพื่อประหยัดเวลา และขับรถเที่ยวลงมาเรื่อยๆ เพื่อเดินทางกลับโดยขึ้นเครื่องกลับจาก London ประเทศอังกฤษ

โดยสายการบินที่เลือกใช้บริการคือ เครือ Sky Team รวมทุนกันระหว่าง KLM และ Air France ด้วยราคา 37,000 ต่อคน แต่ขากลับเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นโดย สายการบิน Air France ที่เราต้องเดินทางกลับประกาศยกเลิกเที่ยวบิน เนื่องจากเป็นวันที่พนักงานสายการบินหยุดงานประท้วง ทำให้จิตใจต้องหวั่นๆกันบ้าง แต่พวกเราก็เดินทางไปสนามบิน Heathrow Terminal 4 ก่อนวันเดินทาง 1 วันเพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากร้อนใจไม่สามารถรอคำตอบกับไฟท์ใหม่ที่จะทำการเปลี่ยนให้ได้ รวมทั้งไม่สามารถติดต่อพนักงานของสายการบินทั้งที่ไทยและที่ฝรั่งเศษหรือที่ลอนดอนได้

เมื่อไปถึงสนามบิน Heathrow Terminal 4 เราเดินไปที่ เคาน์เตอร์ของ Sky Team โดยติดต่อกับเจ้าหน้าที่ถึงเหตุการที่เกิดขึ้น โดยพนักงานสามารถดำเนินการให้เราเพียง 5 นาที เปลี่ยนไฟท์ให้เรากลับเมืองไทยวันและเวลาเดิม แต่เปลี่ยนเป็นบินตรงของสายการบินไทย ถึงเมืองไทยไวกว่าเดิม ปลื้มใจสุด …

เทคนิคการแก้ปัญหาจากประสบการณ์การถูกยกเลิกเที่ยวบินของพวกเรา (ย้ำว่าจากประสบการณ์ของพวกเรานะ) นั้นคือ ตั้งสติเมื่อรู้เดินทางไปสนามบินทันทีเพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่จะดีที่สุด เพราะหากติดต่อผ่านทางโทรศัพท์เสียเงินเปล่าและเสียเวลาเพราะอาจจะติดต่อพนักงานไม่ได้อย่างพวกเรา และเมื่อเจอพนักงานแจ้งเรื่องราวและยืนยันว่าเรามีความจำเป็นต้องเดินทางกลับวันและเวลาเดิมจริงๆ อย่าพึ่งยอมในทันทีเพราะมองว่า มันเป็นสิทธิ์ของเราเนอะ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ต้องต่อรองให้เขา Refund เพื่อให้เราไม่ได้รับความเสียหายต่อเงินในกระเป๋าของเราโดยเด็ดขาด

รถเช่า การเดินทางในทริปนี้ เราใช้บริการรถเช่า โดยจองจาก Sixt ผ่าน Website เลย โดยรับที่สนามบิน Edinburgh (รับรถเกือบ 4 ทุุ่มครึ่ง ศูนย์รถเช่าปิดดึก บริการดี) และคืนรถที่สนามบิน London ซึ่งไม่ต้องวางบัตรเครดิตในการจองแต่อย่างใด ใช้เพียงชื่อ และอีเมล ค่าเช่ารถจำนวน 5 วัน คืนคนละที่ 664.01 ปอนด์ ล๊อควงเงินบัตรอีกประมาณ 340 ปอนด์ พอคืยรถก็รับยอดนี้คืน ปล. คืนวงเงินเร็วมาก

รถที่ได้คือ BMW ซีรีย์ 5 เครื่องดีเซล ประหยัดน้ำมันมาก.. ขับประมาณ 2300 กิโล ค่านำมันประมาณ 5000 บาทได้หรือ 115 ปอนด์

การรับรถเช่า ที่สนามบิน Edinburgh ลงเครื่องก็เข็นกระเป๋าไปที่ศูนย์รับรถ โดยเดินตามสัญลักษณ์รถเช่าไปเลย เดินไกลหน่อย เดินไปตามทางเดินนอกอาคารเชื่อมไปเลยๆ

การคืนรถเช่า – พวกเราคืนรถเช่าที่กลางเมือง London ที่ St.Pancras Internaional ใกล้กับสถานีรถไฟ Kings Cross โดยพวกเราคืนรถเช่าในวันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุด ก็เพียงจอด หย่อนกุญแจลงตู้ จบ..

Wifi
มาคราวนี้พวกเราต้องเดินทางหลายประเทศ และ Internet เป็นสิ่งที่สำคัญมาก

Magic wifi / http://www.magicwifi.co.th/
ไม่รอช้า โทรจองเลย  02-086-9889 ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการจอง ประมาณ 1700 บาท มีค่าประกันเครื่องอีก 2000 บาท เมื่อมาคืนก็จะโอนเข้าธนาคารคืนให้ บูธ Magic WiFi สนามบินสุวรรณภูมิชั้นใต้ดิน (ชั้น B) ติดกับสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ วันมาคืนถึงประมาณตี 5 มีพนักงานดูแลแล้วค่ะ แต่การใช้งานจริงนั้นสัญญาณไปรอบนี้อ่อนมาก โชคดีที่เราซื้อซิมของ Ais – Sim2Fly ไปด้วยช่วยได้มาก

สำหรับ พระเอกในรอบนี้ คือ AIS – Sim2Fly มีค่าซิมประมาณ 900 ..  แล้วเราก็เติมเงินไปอีก 500 บาท เผื่อโทร และเขาก็ช่วยชีวิตเราแม้กระทั่งบนเกาะ Skye ที่ก็ต้องยอมรับว่ามีแต่ภูเขาก็มีช่วงที่เป็นบริเวณอับ สัญญาณอาจจะเข้าถึงยาก แต่พระเอกเขาก็สุดยอด … แนะนำ

การแลกเงิน – SuperRich ที่สนามบินสุวรรณภูมิมีบริการแล้ว สถานที่ตั้งคือสนามบินสุวรรณภูมิชั้นใต้ดิน (ชั้น B) ติดกับสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์

การเดินทาง
การเดินทางของพวกเราอย่างที่เกริ่นมา คือ การเช่ารถขับตลอด 5 วัน ระยะทางประมาณ 2300 กิโลเมตร มัน
1. การขับรถ – เป็นการขับรถทางขวา สบายสไตล์คนไทย แต่ก็ต้องมีสติและขับช้าก่อนนะ เพราะความเร็วในแต่ละที่และสัญญาณการจราจรก็ต้องดูตลอด เพราะกฎหมายเขาก็ดุเดือดอยู่ แม่บ้านไม่อยากโดนหักเงินค่าปรับ โดยเส้นทางของพวกเรานั้นก็มี 2 แบบคือในเมือง กับ เส้นทางเล็กอย่างบนเกาะ Skye และในชนบทนอกเมือง

ในเมืองระวังรถ นอกเมืองบนเกาะระวังกระต่ายและกวาง ปล. กวางตัวสูงเท่ารถอ่ะ

2. แผ่นที่การเดินทาง ถ้าใครได้เคยรับคู่มือของ Be Traveler ทุกทริปก็จะทราบว่า พวกเราจะกำหนดสถานที่เราจะไปไว้ใน Google map ไว้แล้ว เมื่อเดินทางจริง Google map จึงเป็น ไกด์ที่ดีที่สุดแต่รอบนี้ใช้คู่กับ GPS ของรถยนต์ดีเหมือนกัน

3. จำกัดความเร็ว – ทุกเส้นทางถนน ตั้งแต่ในเมือง ชนบท บนทางด่วนมีการจำกัดความเร็วทุกที่ ซึ่งมีการเคร่งครัดมาก ก็ต้องคอยดูป้ายจำกัดความเร็ว

4.ทางด่วน จากที่ขับมาเจอด่านเดียว ก่อนเข้า London ประมาณ 200 บาท มีด่านเหมือนเมืองไทย มีแบบบัตรกับจ่ายเงินสด เข้าให้ถูกนะจะได้ไม่ต้องถอยเหมมือน Easy Pass บ้านเรา 55+

5.การจอดรถ – ไปรอบนี้ค่าจอดรถถูกมาก สถานที่ที่ไปจอดฟรี มีลานจอดสบาย จะมีเสียค่าที่จอดก็ที่เมืองหลวง Scotland กลางเมืิอง ก็หลายร้อยบาทอยู่ ลักษณะก็เป็นการกดบัตรตอนเช้า ชำระที่ตู้อัตโนมัติ แล้วมาแต้มบัตรตอนออก

6. การเติมน้ำมัน เป็นการเติมเอง ทำทุกย่างเอง แล้วก็เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อในปั้ม แล้วบอกหมายเลขของหัวจ่ายน้ำมัน จ่ายเงิน ง่ายๆ มีอีกแบบเป็นจ่ายผ่านบัตรเลย แต่เรายังไม่เจอเลย

การเดินทางในรูปแบบอื่น – นอกจากการขับรถเที่ยว เมื่อเราเดินทางถึง London เราเลืิอกที่จะคืนรถแล้วใช้การเดินทางสาธารณะของที่นั้น โดยเราจะต้องซื้อ บัตร Oyster ใช้ได้ทั้ง รถเมล์ รถใต้ดิน,  รถราง, London Over ground เป็นลักษณะบัตรเติมเงิน คือเติมเงินเข้าไปในบัตรตามที่ต้องการ และใช้บัตรสแกนเวลาเดินทางแต่ละครั้งก็จะมีการตัดเงินออกไปจากบัตร มีค่าบัตร 5 ปอนด์/บัตร ซื้อบัตรได้ทุกสถานีในลอนดอนกับตู้อัตโนมัติ

ค่าใช้จ่าย 
เช่นเดิม พวกเรา Be Traveler เดินทางรับชมวิวที่สวยงาม แต่เรื่องอาหารการกิน ทำกินเอง ห่อมื้อเที่ยงไปกินข้าวกับวิวหลักล้าน แต่ค่าข้าวหลักร้อย แต่ก็ไม่ถึงกับประหยัดจนไม่ได้ลิ้มลองอะไรแปลกๆเลย เอาทีี่พอดีแล้วเที่ยวอย่างมีความสุข

• ค่าเครื่องบิน 37000 บาท
• ค่าวีซ่า ประมาณ 119 ปอนด์ ก็เป็นเงินประมาณ 5+++ อยู่ที่เรทเงินเนอะ
• ค่าตั๋วบอลคนละ 12000
• ค่าที่พัก รวม 1112 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 50000 หารต่อคนก็คนละประมาณ 25000
• เราแลกเงินปอนด์ไป 1136 ปอนด์ ก็ประมาณ 50000 บาทไทย หรือต่อคนคนละ 25000

รวมแล้วก็ตกคนละ 100000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าทุกทริปของ Be Traveler นั้นก็ต้องยอมรับว่าการดูบอลนั้น ทั้งค่าตั๋วบอลและที่พักที่เราเลือกให้เดินไม่กี่น่าทีก็ถึงสนามเลย ค่าใช้จ่ายก็อาจจะสูง แต่เราก็ถือว่ามีความสุขและสนุก ประทับใจเนอะ

การเก็บกระเป๋า โดยวันนี้พวกเราก็มาแบ่งปันว่า เวลาเราเดินทางต่างประเทศ เราพกอะไรไม่บ้าง ตามภาพเนอะ หลักๆก็จะประมาณนี้ ซึ่งสิ่งที่สำคัญมากก็คือหม้อหุงข้าวและหม้ออเนกประสงค์ เพราะมันทำให้เราประหยัดและได้อาหารถูกปากเราแบบสุดๆ

 

สำหรับใครที่สนใจเที่ยวในแบบเรา ก็สามารถเลียนแบบได้นะ ไม่หวง อยากปรึกษา อยากสอบถามได้ที่นี้..

ฝากช่องทางการติดต่อ .. ด้วยนะคะ
Facebook : 1Betraveler
Hotmail : Be_traveler@hotmail.com

ขอบคุณสำหรับการติดตาม

Be Traveler