สวัสดีนักเดินทาง
ครั้งนี้เรากลับมาอีกครั้งกับการกลับมาเยือนพม่าอีกครั้ง โดยครั้งนี้เราเดินทางมายัง พุกาม ดินแดนแห่งทะเลเจดีย์ ด้วยบริการคุณภาพของ Nayy Linn Naing Travels & Tours อีกเช่นเคย
เราเดินทางด้วยสายการบิน Thaismile อาหารอร่อยที่นั่งสบาย ❤️
ลงสนามบินมัณฑะเลย์ ถึงช่วงเวลาประมาณบ่ายโมง พี่ Nay และทีมงานก็มารับเราตรงเวลาเป๊ะ ไปคราวนี้พี่ Nay ส่งน้องชายแท้ๆ มาดูแล ขับรถและเป็นไกด์ให้กับเรา น้องโตสุดหล่อ
สำหรับใครอยากเที่ยวพม่า ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเที่ยวสายไหน สายชิลล์ สายผจญภัย หรือสายวางแผนอย่างเรา Nayy Linn Naing Travels & Tours จัดให้ได้หมด อย่างพวกเราสายนักวางแผน จัดมริปเก่ง แค่บอกสถานที่กำหนดเวลาให้ทางทีมงานเลย Nayy Linn Naing Travels & Tours จัดให้ได้หมด หรือบางครั้งหาโรงแรมไม่ได้ บอก Nayy Linn Naing Travels & Tours จัดให้อีกด้วย ราคาดี โรงแรมเริ่ดบอกเลย
ใครสนใจฝากช่องทางการติดต่อ ตามนี้เลย
อย่าลืมแวะแลกเงินพม่า ในสนามบินแวะจุดนี้เลย CB Bank แลกปุ้ปดูรวยเลย !! เพราะที่นี้เขาไม่มีเหรียญใช่แต่ธนบัตร วิธีคํานวณเงินจ๊าด แบบง่ายๆ ก็คือ ตัด 0 ออก 2 ตัวหลัง แล้วคูณด้วย 2 จะเป็นค่าเงินบาทไทยโดยประมาณ เช่น 10000 เท่ากับ 200 บาท
ถึงสนามบินน้องโต พาเราออกเดินทางสู่พุกาม เข้าโรงแรมที่มีชื่อว่า Hotel Temple View Bagan ที่เราเลือกโรงแรมนี้ เพราะวิวของห้องพักเลย แนะนำสอนชั้น 2 นะ
วิวของรร. ที่สวยก็อยู่บริเวณดาดฟ้าของโรงแรม ซึ่งก็เป็นบริเวณที่ให้บริการอาหารเช้าอีกด้วย ได้บรรยากาศของความเป็นพุกามสุดๆ
เรามาถึงโรงแรมก็เย็นแล้วเลยบอกน้องโตอยากชมแสงสีของตลาดยามค่ำคืน น้องโตเลยพาเราไปที่ตลาดยองอู Nyang U ยามค่ำคืน ซึ่งตลาดนี้ตอนเช้าก็เป็นตลาดเช้าเช่นกัน แต่เรามาเที่ยวตอนกลางคืน ก็คึกคักไปอีกแบบ
กลับมาพักผ่อนเอาแรงเพื่อตื่นแต่เช้าไปชมแสงเช้าเหนือทะเลเจดีย์ในวันรุ่งขึ้น
เช้าวันรุ่งขึ้น น้องโตมารับตั้งแต่ตี 5 พาเราไปชุดชมวิวยามเช้า ซึ่งเป็นเนินภูเขาที่ไม่สูงมาก เพราะปัจจุบันบริเวณที่เป็นเจดีย์ทุกที่ในพุกาม ไม่อนุญาตให้ปีนป่ายเจดีย์ขึ้นไปชมวิวกันอีกแล้ว เพื่อความปลอดภัยและความเหมาะสม
สวยมาก และยามเช้าแบบนี้ก็มีบอลลูนมาสร้างสีสันให้ทุ่งทะเลเจดีย์ให้ดูคลาสสิคขึ้นเยอะเลย มาคราวนี้ไม่ได้พกเลนส์ซูมมาเสียดายนิดหน่อย ใครมาที่นี้ห้ามลืมพกมานะ!!
พอเริ่มมีแสงเราก็เห็นทะเลเจดีย์ชัดขึ้นเยอะเลย
ชมบรรยากาศจนอิ่มล่ะ กลับไปจัดการกับมื้อเช้าที่โรงแรมกัน
อาหารอร่อย โดยเฉพาะข้าวผัด ❤️
เมื่ออิ่มก็ออกเดินทางเที่ยวพุกามกัน โดยนักท่องเที่ยวจะมีค่าธรรมเนียม จ่ายครั้งเดียวเที่ยวทั้งเมือง 25000 จ๊าดต่อคน หรือ 500 บาท น้องโตพาไปเสียเงินรับตั๋วมาเรียบร้อยไม่ต้องห่วง
ดังนั้นก็เริ่มกันที่วัดแรกกันเลย
Shwesandaw Pagoda หรือ เจดีย์ชเวสันดอว์ ถ้าเป็นอดีตที่นี้จะเป็นจุดที่ชมแสงเช้าของทุ่งทะเลเจดีย์ คือนักท่องเที่ยวสามารถปีนขึ้นไปได้ แต่ตอนนี้ปีนไม่ได้แล้ว มาช่วงเช้าคนก็จะน้อยไม่เหมือนแต่ก่อน
ไปกันต่อ ระหว่างทางพาหนะที่เห็นตลอดทางก็คือเกวียน มีนักท่องเที่ยวอยากได้บรรยากาศความเป็นพุกามในอดีตก็สามารถมาย้อนอดีตกันได้ แต่จากสภาพถนนเป็นดินลูกรัง ฝุ่นก็จะค่อนข้างหนาหน่อย
ไปวัดต่อไป วัดพระมหาธาตุเจดีย์ชเวซีโกน (Shwezigon Pagoda) เจดีย์แห่งแรกของอาณาจักรพุกาม เป็น 1 ใน 5 มหาสถานท่ีศักดิ์สิทธ์ของ ชาติ และเป็นมหาเจดีย์ท่ีบรรจุพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้า พระมหาธาตุเจดีย์ชเวซีโกน (Shwezigon Pagoda) เป็นเจดีย์ใหญ่สวยงาม ศักดิ์สิทธิ์ และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศพม่า อายุราวๆ 960 ปี ช่ือ “ชเวซีโกน” หมายความว่า “เจดีย์ทองแห่งชัยชนะ” สร้างขึ้นโดยพระเจ้าอโนรธามังช่อ กษัตริย์พระองค์แรกของอาณาจักรพุกาม แต่การก่อสร้างไปแล้วเสร็จในรัชกาลถัดไป
จุดแรกก็แวะถ่ายคือเส้นทางเดินไปยังตัววัด สร้างเป็นทางเดินทอดยาว สวยดีแวะถ่ายรูปก่อน
ภายในเจดีย์เชื่อว่าบรรจุพระเขี้ยวแก้วและพระสารีริกธาตุโดยอัญเชิญมาจากลังกา บนหลังช้างเผือก พระเจ้าอโนรธามังช่อได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้า ช้างเผือกคุกเข่าลงที่ใด จะสร้างเจดีย์ไว้ที่นั่น และแน่นอนว่าช้างเผือกเดินมาทรุดลงตรงนี้ เจดีย์จึงเกิดขึ้น
ภายในบรรจุพระธาตุสําคัญ ๓ ส่วน คือ พระเขี้ยวแก้ว ที่กษัตริย์แห่งศรีลังกาได้นํามาถวาย พระธาตุกระดูกไหล่ ที่นํามาจากเมืองศรีเกษตร (ใกล้เมืองแปร) และ พระธาตุพระนลาฏ (หน้าผาก)
อย่าลืมแวะถ่ายภาพกับองค์เจดีย์ที่สะท้อนกลับหัวและปิดทองขอพรนะ
วัดต่อไป เจดีย์วิหารติโลมินโล (Hilominlo Pagoda) เจดีย์องค์สุดท้ายที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบพุกามขนานแท้ สร้างโดยพระเจ้าติโลมิโล ช่วงปี พ.ศ. 1761 ที่มีของเจดีย์นี้น่าสนใจมาก เพราะเกิดจากการเสี่ยงทายราชบุตรเพื่อสืบราชบัลลังค์แทนพระเจ้านรปติซีตู ซึ่งก็คือพระราชบิดาของพระเจ้าติโลมิโลนั่นเอง
เหตุที่พระองค์มีพระชายาเยอะ ราชบุตรก็เยอะ จึงไม่รู้จะให้ใครสืบราชบัลลังค์ แถมตอนทรงประชวรหนัก พระองค์ยังได้รับปากพระชายาองค์หนึ่งที่คอยดูแลพระองค์อย่างดีตอนประชวรว่าจะพิจารณาราชบุตรของพระนางให้ขึ้นครองราชย์ด้วย สุดท้ายพระองค์หาทางออกด้วยการให้ราชบุตรทั้ง 5 พระองค์มานั่งล้อมวงกัน แล้วตั้งฉัตรประจำพระองค์ไว้ตรงกลาง หากฉัตรล้มลงแล้วปลายชี้ไปทางราชบุตรองค์ไหน องค์นั้นจะเป็นกษัตริย์สืบไป ปรากฏว่าปลายฉัตรชี้ไปที่ราชบุตรซึ่งป็นลูกของพระชายาองค์นั้นนั่นเอง เมื่อพระเจ้าติโลมิโลขึ้นครองราชย์ พระองค์จึงสร้างเจดีย์ขึ้นเป็นอนุสรณ์ ณ บริเวณที่พระราชบิดาเอาฉัตรเสี่ยงทายและเรียกว่า “เจดีย์ติโลมินโล”
“เจดีย์ติโลมินโล”
เป็นวัดที่คงเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมพุกามเอาไว้ครบมาก ทั้งพระพุทธรูปด้านใน ภาพจิตรกรรมฝาผนัง รวมถึงความร่มรื่นรอบๆ วัด เสียดายที่ตัวเจดีย์เสียหายหนักจากแผ่นดินไหวเมื่อปี 1972 ทำให้หลายส่วนชำรุด ปัจจุบันอยู่ระหว่างการซ่อมแซมจากรัฐบาล
วัดต่อไป นั่นก็คือ เจดีย์วิหารอนันดา (Ananda Pagoda)เป็นเจดีย์ที่งดงามที่สุดในพุกาม วัดนี้สวยงาม วิจิตร เป็นวัดที่ผสมผสานระหว่างศิลปกรรมพม่า ขอม อินเดีย ได้รับยกย่องว่าเป็นเพชรเม็ดงามแห่งสถาปัตยกรรมพุกาม ตัววิหารเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ใหญ่โตสง่างาม มีมุขเด็จยื่น ถ้าดูจากมุมบนลักษณะจะเหมือนไม้กางเขนแบบกรีก ภายในวิหารมีพระพุทธรูปยืนที่แกะสลักด้วยไม้สัก ประดิษฐานอยู่ทั้งสี่ทิศ
ที่นี้สวยมาก มุมถ่ายรูปก็เยอะมาก สมกับเป็นวัดที่สวยที่สุดจริงๆ ส่วนด้านในความพิเศษก็คือ องค์พระพุทธรูปนั้นหากมองจากระยะใกล้ สีหน้าจะยิ้มมีความสุข หากมองใกล้ๆ สีหน้าจะดุ ซึ่งก็เป็นความพิเศษและมหัศจรรย์ของวัดนี้
วัดต่อไป เจดีย์วิหารธรรมยางจี (Dhammayangi Pagoda) เป็นเจดีย์ที่ใหญ่โตที่สุดในพุกามได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่และแข็งแรงที่สุดในเมืองพุกาม สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้านรปติสิธู เจดีย์สร้างจากอิฐแดงเป็นล้านๆ ก้อน
พระเจ้านรปติสิธูนั้นเนี๊ยบถึงขนาดว่า หากพระองค์เอาเข็มจิ้มลอดระหว่างอิฐสองก้อนได้ นายช่างผู้นั้นจะถูกตัดมือและประหารชีวิตทันที!! ความโหดของพระองค์นี้เป็นที่มาของการสร้างเจดีย์วิหารธรรมยางจี นั่นเพราะพระองค์สังหารพระบิดาและพี่เชษฐา (พี่ชาย) ของตน เพื่อขึ้นครองบัลลังค์ แต่ต่อมาเกิดสำนึกผิดได้ จึงตั้งใจสร้างเจดีย์นี้เพื่อไถ่บาป แต่ก็เหมือนถูกสาป เพราะเจดีย์นี้ไม่เคยสร้างเสร็จ เพราะพระเจ้านรปติสิธูสิ้นพระชนม์เสียก่อน จึงทิ้งไว้แต่อิฐเปลือยๆ ไม่มีปูนฉาบ ไม่มีจิตรกรรมฝาผนังอย่างที่วัดอื่นมีกัน แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่เราสองคนได้พบ ก็สามารถพิสูจน์ความรุ่งเรืองของเจดีย์แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
บริเวณด้านหน้าเจดีย์มีการขายตุ๊กตาตัวละครของพม่า โดยห้อยกับต้นไม้ใหญ่ ถือเป็นเอกลักษณ์ของวัดนี้
วัดต่อไป เจดีย์สุลามณี Sulamani temple ชื่อวิหารที่แปลว่าสุดยอดอัญมณี ถือว่าเป็นเจดีย์ที่มีความสวยงามที่สุดในอาณาจักรพุกามตอนกลาง เป็นวิหาร 2 ชั้น และความโดดเด่นของที่นี้คือจิตรกรรมฝาผนังที่ยังคงหลงเหลือไว้ให้ได้ชมเยอะพอสมควร
เที่ยวกันจัดเต็มสุดๆ ก็แวะกินมื้อเที่ยงกันหน่อย เลยให้น้องโตแนะนำ อยากชิมอาหารพม่าแบบบุฟเฟต์ น้องโตเลยพาไปแวะร้านนี้ Golden Myanmar ราคาก็ต่อคนคนละ 100 บาท อร่อยกินได้❤️
กินอิ่มก็ออกเดินทางกันต่อ …
เจดีย์วิหารทัตบินยู Thatbyinnyu Temple เป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพุกาม หรือคนไทยเรียก สัพพัญญู ซึ่งหมายถึงผู้ตรัสรู้ทุกสิ่ง โดยมีความสูงอยู่ที่ ประมาณ 61 เมตร ด้วยศิลปะแบบปาละของอินเดีย ถือเป็นแม่แบบของสถาปัตยกรรมพม่า
วัดนี้ใหญ่โตโดดเด่นและสวยงามมาก เจดีย์เป็นเจดีย์ 5 ชั้น แต่ก็ไม่ได้เปิดให้ขึ้นชมเช่นเดิม ภายในวัดก็จะมีเหล่าบรรดาจิตรกรมาวัดรูปลงสีและขายรูปภาพก็อยู่ทุกมุมของประตูเจดีย์ ใครชอบก็ลองต่อราคาดูเนอะ ❤️
ถัดมา เราก็ไปเจดีย์ที่อยู่ใกล้กันต่อซึ่งเราจะได้ขึ้นสู่ชั้นที่ 2 ของเจดีย์กันสักที นั่นก็คือ
เจดีย์ Shwegu Gyi Phaya ใครที่มาที่นี้จะได้เห็นทุ่งเจดีย์จากมุมสูงของเจดีย์นี้ และสามารถมองเห็น Thatbyinnyu Temple ได้อีกด้วย
และบนนี้มีต้นไม้ใหญ่โดดเด่น ให้ความร่มรื่นแล้วได้มุมถ่ายภาพชิคๆเพิ่มอีกมุม
แสงอาทิตย์เริ่มจะอ่อนลง มาพุกามเดือนธันวาคมอากาศดีมาก ลมเย็นไม่ร้อนเลย ก็เลยอยากชมวิวริมแม่น้ำอิระวดีสักหน่อยเลยไปที่
เจดีย์น้ำเต้า หรือ Bu Phaya
เจดีย์ที่เป็นสัญลักษณ์ของคนเรือที่ล่องมาในแม่น้ำอิระวดีว่า ถ้าเห็น Buphaya ก็ถือว่า ถึงพุกามแล้ว ภายในเจดีย์บรรจุพระบรมสารริกธาตุ หากใครมาพุกามก็อย่าลืมมาสาการะและยังได้ชมวิวริมแม่น้ำที่สวยมากแห่งหนึ่ง
ไปกันต่อที่ Manuha phaya หรือจะเรียกว่า “พระอึดอัด” ภายในพระวิหาร นั้นประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่ 3 องค์ซึ่งองค์พระพุทธรูปนั้นมีขนาดใหญ่มโหฬาร บริเวณ “พระอุระ” ของพระพุทธรูปมีขนาดโตพองจนรู้สึกได้ถึงความอึดอัดที่ทับถมในจิตใจของพระองค์ (พระเจ้ามนูหะ(King Manuha) กษัตริย์มอญที่ถูกจับตัวมาเป็นเชลยศักดิ์อยู่ที่เมืองพุกามพร้อมมเหสี)
เริ่มบ่ายแก่ ร่างกายต้องการกาแฟ น้องโตจัดร้านดังของเชฟดังมีรางวัลการรันตีได้ไปชิมกาแฟกัน
ร้าน Sharky’s เลยได้สั่งกาแฟกับพิซซ่ามากิน เมื่อได้กินก็รีวิวว่า กาแฟอร่อย แต่พิซซ่ากลิ่นชีสแรงไป ไม่ค่อยไหวเท่าไหร่ ❤️ แต่ราคาไม่แพงเลย
ไปต่อกันที่วัดสุดท้าย ที่นี้จะมาชมแสงเย็นริมแม่น้ำอิระวดีกัน นั่นคือ
Lawkananda Pagoda หรือคนพม่าเรียกนันปะย่ะ
เป็นวิหารที่สร้างด้วยหินทราย สวยงามโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำอิระวดี
และได้ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า กับอากาศที่เย็นสบาย ชอบที่นี้มากจบทริปทัวร์พุกามได้ดีมาก
มื้อเย็นวันนี้ มาชิมร้านดังของพุกาม
Starbeam bistro ร้านอาหารอิตาเลี่ยนในสไตล์พม่า อยู่ในย่านในย่าน Old Bagan ใน TripAdvisor ให้ฉายาว่าเป็น “Little Gem Restaurant” เป็นร้านอาหารของ Chef Tin Myint ซึ่งทำการอยู่ในวงการโรงแรม เมนูที่สั่งมาก็จิ้มรูปบนเว็ปใน TripAdvisor สั่งเลย
อร่อยนะ โดยเฉพาะสลัดอโวคาโด้ ดีมาก!! และที่สำคัญราคาไม่แพงเลย คิดเป็นเงินไทยทั้งโต๊ะ 600 บาท มาเถอะ กินได้สบายมาก
กลับที่พักนอนพักผ่อน
วันรุ่งขึ้นก่อนเดินทางออกจากพุกามบอกน้องโต ร่างกายต้องการตลาดเช้า อยากเดินตลาดแบบคนท้องถิ่นน้องโตไม่รอช้า check out ออกจากโรงแรมปุ้ปพาไปตลาดเช้าที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไหร่
เราออกเดินทางจากพุกามด้วยความสุขมาก เพื่อเดินทางไปทะเลสาบอินเล สำหรับใครที่อยากจะมาเที่ยวพุกาม ช่วงเดือนธันวาคมถือเป้นช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยวมาก เพราะอากาศไม่ร้อนจนเกินไป ส่วนการเดินทางมาจากที่ได้มาสัมผัส แนะนำให้ติดต่อคนพื้นที่มานำเที่ยวจะดีที่สุด เพราะสะดวกสบายและอย่างน้อยก็มีคนคอยสื่อสารให้เราได้เป็นอย่างดี รู้สึกปลอดภัยกว่าเยอะเลย
ลองมาสัมผัส แล้วคุณจะหลงรัก พุกาม เมืองแห่งอารยธรรม แห่งนี้แน่นอน
ขอบคุณสำหรับการติดตาม
Be Traveler
** สำหรับการเดินทางในครั้งนี้เรายังไปเที่ยวกันต่อที่ทะเลสาบอินเล ฝากติดตามต่อในตอนต่อไป ตอนทะเลสาบอินเลด้วยนะ